วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน (1) : ผศ.ดร.สุวิญ รักสัตย์


เกริ่นนำ

ก่อนอื่นจะต้องยอมรับความจริงของโลกก่อน โลกมีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปในที่สุด โลกก็เปรียบเหมือนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่มีเกิดขึ้น มีเจริญเติบโต และก็มีอันต้องสิ้นสลายไป เมื่อเข้าใจโลกอย่างนี้ก็จะสามารถมองปัญหาที่เกิดกับโลกอยู่ในขณะนี้ได้อย่างไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน ถ้าจะพูดให้เห็นภาพชัดขึ้น โลกขณะนี้เปรียบเหมือนคนที่มีอยู่อายุประมาณ ๕๐ ที่ป่วยเป็นโรครุมเร้าหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง ธารัสซีเมีย (Thalassemia) วัณโรค ถุงลมโป่งพอง หืดหอบ เป็นต้น รวมทั้งโรคที่ตามมาอีกคือ โรคเครียด กังวล ประสาท จิต รักษาโรคหนึ่งอาจหายได้ก็ยังเหลือโรคอื่นๆ อีก โรคแต่ละโรคนั้นก็รักษาต่างๆ กัน เชื่อมโยงหากัน ใครที่เคยเห็นคนเป็นโรครุมเร้าหลายโรคอย่างนี้ เห็นแล้วก็รู้สึกอ่อนใจว่าจะรักษาอย่างไรดี ไม่รักษาก็มีแต่จะทรุดลงเรื่อยๆ การเปรียบเทียบโลกเช่นนี้สอดคล้องกับแนวคิดของเจมส์ เลิฟล๊อค (James Lovelock) ที่ได้เสนอสมมติฐานเรื่อง Gaia ว่า โลกนี้เป็นหน่วยแห่งชีวิตหน่วยหนึ่งที่มีองค์ประกอบหน่วยชีวิตย่อยๆ เช่น หัวใจ ปอด ตับ ทุกหน่วยดูราวกับทำหน้าที่เฉพาะของตัวเอง แต่ที่สุดแล้วทุกหน่อยก็ดำรงอยู่เพื่อชีวิตที่เป็นองค์รวม เขาเชื่อว่า ทุกหน่วยชีวิตในโลกคือส่วนหนึ่งของชีวิตโลก ที่เรียกว่า Gaia ซึ่งก็หมายถึงแม่ผู้ให้กำเนิด1

โดยปกติโลกก็ชราภาพลงบ้าง แม้ไม่มีมนุษย์อยู่บนโลกนี้ โลกก็ต้องเสื่อมลงตามกาล แต่พอมีมนุษย์อยู่บนโลก มนุษย์ก็ซ้ำเติมโลกด้วยสิ่งที่เป็นพิษทั้งหลาย เป็นการช่วยกันเร่งปฏิกิริยาให้มีผลกระทบมากยิ่งขึ้นโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่า จะหาเงินมารักษาโรคโดยวิธีการตั้งโรงงานค้าไม้ โรงงานขุดเจาะบ่อน้ำมัน โรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานยาสูบ เป็นต้น แต่ละโรงงานนั้นล้วนมีส่วนส่งผลโดยตรงกับสภาพของโรค แต่เพื่อต้องการเงินมารักษาจึงจำเป็นต้องทำ ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นกลับคิดว่า การทำเช่นนี้คือความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติ การเผาผลาญพลังงานและทรัพยากรของโลกอย่างเมามันเพื่อให้เห็นภาพว่า มนุษย์กำลังจะทำให้โลกเจริญขึ้น นี่คือเหตุผลของคนที่กำลังจะรักษาโรคของโลก

ภาวะใจร้อน : ภาวะใจกระจก โดย ผศ.ดร.สุวิญ รักสัตย์

เกริ่นนำ
  

โลกตอนนี้กำลังตื่นตัวกับปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) ซึ่งเป็นปัญหาคุกคามความปลอดภัยของมนุษยชาติอันเกิดจากธรรมชาติ ทั่วทุกมุมโลกกำลังส่อเค้าปัญหาที่พร้อมจะประทุทำลายชีวิตของมนุษย์ทุกเมื่อ ถ้าหากธรรมชาติไม่แสดงผลในทางคุกคามความปลอดภัยของมนุษย์ ไหนเลยมนุษย์จะใส่ใจกับปัญหาเหล่านี้ นี่เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของสัตว์ ต้องยอมรับความจริงว่า โลกนี้ก็มีอายุ มีเกิด พัฒนาการไป และดับสลายไปในที่สุด โลกก็เปรียบเหมือนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่ง ดังที่เจมส์ เลิฟล๊อค (James Lovelock) เรียกโลกนี้ว่า Gaia คือ แม่ปฐพี ผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง โลกใบนี้หากเปรียบเป็นคน ก็เป็นคนอายุประมาณ ๕๐ ปี อีกทั้งเป็นคนที่มีโรคหนักๆ หลายโรครุมเร้าอีกด้วย มีแต่จะทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ ผู้เยียวยารักษาเริ่มรู้สึกอ่อนใจ

นักอนุรักษ์โลก (Global Preservationists) กลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิทยาศาสตร์ กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรโลก กลุ่ม Green Peace เป็นต้น ได้สังเกตภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นกับโลก โดยสังเกตจากอุณหภูมิสูงขึ้น คลื่นความร้อนรุนแรงขึ้น ภัยแล้ง น้ำท่วม พายุ ฤดูกาลแปรปรวน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นถี่ในระยะนี้ แต่ละเหตุการณ์นั้นได้ทำลายชีวิตและทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก หนึ่งในสาเหตุทั้งหลายก็คือ ภาวะก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Effect) เป็นปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและโลกร้อน (Climate Change & Global Warming)

พุทธศาสนาในล้านนา โดย ศ.แสง จันทร์งาม

รอข้อมูล